Facebook
Twitter
LINE

รู้จักปรากฏการณ์ Short Squeeze ที่ทำให้หุ้น GameStop กลายเป็นหุ้น 100 เด้ง!!

 

จากที่บทความก่อนหน้านี้ ผมได้ทำการเขียนอธิบายนักลงทุนมือใหม่ หรือคนทั่วไปที่สงสัยถึงเรื่องการ “Short หุ้น” ได้พอเข้าใจคอนเซปต์กันไปเบื้องต้นแล้ว

ใครยังไม่ได้อ่าน สามารถย้อนไปได้ที่: การ Short หุ้นคืออะไร? สรุปแบบเข้าใจง่ายๆ…

ในบทความนี้เราเลยมาต่อกับเรื่อง Short Squeeze ที่สัญญากันไว้ครับ

โดยในโพสต์นี้จะไม่ขอยกตัวอย่างเป็นหุ้น GameStop หรือหุ้น Blackberry หรือ Nokia ที่กำลังมีประเด็นนี้อยู่หรอกนะ

แต่เราจะมายกตัวอย่างด้วย “แมว” กันครับ

 

 

สมมติว่าหมู่บ้านแห่งหนึ่งมี “แมว” อยู่ 100 ตัว ทุกตัวมันพิเศษตรงที่ฟันของมันดันเป็นทองคำก็แล้วกัน ทำให้มันกลายเป็นแมวมีราคาเป็นพิเศษ

คนในหมู่บ้านก็ซื้อขายแลกเปลี่ยนแมวกันเป็นปกติที่ราวๆ 100 บาท แล้วแต่ว่าในตอนนั้นคนจะให้ค่ากับแมวมากแค่ไหน

จนกระทั่งมีใครสักคนมองว่า อนาคตผู้คนจะเลิกเห่อแมวพวกนี้แล้ว และราคามันต้องลดลงไปแน่ๆ

เขาค่อนข้างมั่นใจ แต่ปัญหาคือเขาไม่มีแมวอยู่เลย จึงทำการยืมแมวของคนข้างบ้านมาก่อน แล้วสัญญาว่าภายในหนึ่งเดือนจะหามาคืน พร้อมกับดอกเบี้ย 5%

เขาขายแมวไป 100 บาท ได้เงินมาใช้

แล้วพอผ่านไปครึ่งเดือน ปรากฏว่าราคาแมวตกไป 80 บาท เขาก็ซื้อมันกลับมาคืนเจ้าของ

เท่ากับเขาได้กำไรฟรีๆ 20 บาท ถึงหักดอกเบี้ยไป 5 บาท ก็ยังได้กำไรอยู่ 15 บาท

 

ทีนี้.. พอเขาเอาเรื่องการขาย Short แมว ไปเล่าให้ญาติๆ ฟัง หลายคนก็เลยมองว่ามีโอกาสทำกำไรได้จากวิธีนี้บ้าง

ญาติก็เลยชวนคนอื่นๆ อีก 90 คน มาติดต่อขอยืมแมวชาวบ้านไปขาย โดยรอบนี้สมมติว่าให้บ้านตัวเองเป็นของคำประกันเลยว่าจะคืนแน่ๆ ในเดือนหน้า

ลองคิดดูนะครับว่าตอนนี้ แทนที่จะยืมแมวมาขายแค่ตัวเดียว แต่กลับเป็นแมวถึง 90 ตัว

เมื่อมีแมวล้นตลาดแบบนี้ ราคาก็ย่อมตกเป็นธรรมดา เพราะคนซื้อเห็นว่ามันมีเยอะ ก็ขอต่อราคาหน่อย คนขายก็อยากรีบขาย (ตามหลัก Demand-Supply ที่เรียนกันมาเป๊ะๆ)

แมวก็เลยไม่สามารถขายได้ที่ 100 หรือกระทั่ง 80 บาทแล้ว

บางคนขายได้ที่ราคา 60 บางคนขายได้ 50 บาท ได้ 40 บาทก็มี หรือบางคนขายได้แค่ 10 บาท

ตอนนี้ราคาแมวลดลงมาเหลือ 10 บาทแล้วครับ!!

 

เท่ากับว่าตอนนี้ คนที่ขายไปก่อนที่ราคา 60 บาท ถ้ามาซื้อแมวคืนตอนนี้ ก็ยังถือว่าได้กำไรอยู่ 50 บาท

ขณะที่คนซึ่งขายได้ที่ 15 บาท ก็ยังคงได้กำไรอยู่ 5 บาท

ส่วนคนที่ขายได้ 10 บาท (มาขายช้าครับ) ก็ภาวนาให้มันลงไปมากกว่านั้นอีก

 

จนกระทั่ง มีคนหนึ่งในหมู่บ้านเริ่มเอะใจว่า ราคาแมวทองคำตอนนี้มันตกต่ำเกินไปแล้วนะ มันไม่ควรจะอยู่ที่ราคา 10 บาท

แล้วแมวในหมู่บ้านก็ยังเหลืออยู่แค่ 10 ตัวเอง ซึ่งถ้าเราจะกว้านซื้อทั้งหมด ก็ย่อมทำได้ง่ายๆ

จากเมื่อก่อนลงทุน 500 บาท ซื้อแมวตัวละ 100 ได้แค่ 5 ตัว

ตอนนี้ลงทุนซื้อสัก 250 บาท กว้านซื้อแมวที่ราคา 25 บาท ได้แมวทั้ง 10 ตัวมาครอบครองเลยนะ

ลงทุนน้อยกว่ากันครึ่งหนึ่ง แต่ได้แมวมา 2 เท่าของตอนแรก!!

เขาก็เลยไปขอซื้อแมวจากคนที่ยังมีแมวอยู่จริงๆ 10 ตัวนั้นทั้งหมดครับ

เท่ากับว่าราคาแมวตอนนี้อยู่ที่ 25 บาท แล้วแบบนั้นจะเกิดอะไรตามมา??

 

ก็คนที่ Short แมวเอาไว้ที่ราคา 10 บาท 15 บาท 20 บาท ล้วนกำลังขาดทุนกันไปหมดนั่นเองครับ

ยิ่งใกล้กำหนดที่จะต้องเอาแมวไปคืนเจ้าของ หรือทนขาดทุนไม่ไหว อยากจะซื้อคืนมาแล้ว ก็บังเอิญว่าทำไม่ได้ เพราะอะไร?

เพราะบางคน ก็ซื้อแมวไปที่ราคา 60 จะไม่ยอมขายคืนให้ในราคาถูกๆ อย่าง 25 บาทแน่

เพราะหลายคนรู้ทัน อยากจะกักแมวไว้ มั่นใจว่าจะต้องโก่งราคางามๆ ได้อย่างแน่นอน

แล้วลองคิดตามนะครับ ว่าสมมติถึงกำหนดคืนแมว แต่ยังไม่มีใครยอมขายเลยจะเป็นยังไง?

คนที่ซื้อคืนก็ต้องยอมซื้อคืนทุกราคาครับ จะโก่งไปราคาเท่าไรก็ต้องจ่าย เพราะไม่อยากจะเสียบ้านที่เอาไปค้ำประกันไว้นั่นเอง

กลุ่มคนขายก็เลยสามารถโก่งราคาเป็น 100 หรือกระทั่งทำให้แมวราคาขึ้นไป 200 หรือกระทั่ง 1,000 บาทได้ไม่ยากเลยเช่นกัน

ปรากฏการณ์ที่เหล่าคน Short แมว พยายามดิ้นรนซื้อแมวคืนเจ้าของนี่แหละครับ คือสิ่งที่เรียกว่า Short Squeeze

ซึ่งก็ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทหนึ่ง สามารถบวกขึ้นไปเป็นสิบๆ เท่า ได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วันด้วยเช่นกัน

 

การอธิบายด้วยแมว 100 ตัว ที่จริงอาจจะดูไม่สมเหตุสมผลในบางจุดเช่นกัน

เพราะในความเป็นจริง หุ้นของธุรกิจหนึ่งมีเป็นล้านๆ หุ้น กลุ่มคนที่มาซื้อขาย ก็มีทั้งนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนกระเป๋าหนัก ไปจนถึงกองทุนขนาดใหญ่

และก็ยังมีเครื่องมือทางการเงินมาช่วยในการรักษากำไรขาดทุน มากกว่าแค่ซื้อมาขายไป

แต่ก็เพื่อเป็นตัวอย่างง่ายๆ ที่อยากจะแสดงให้เห็นถึงผลจากความไม่สมดุลของฝั่งหนึ่งที่มากจนเกินไป จนสุดท้ายพออีกฝั่งหนึ่งดีดกลับ ก็ย่อมส่งผลกระทบได้รุนแรงไม่แพ้กันนั่นเองครับ

 

สุดท้าย..

ถ้าหากเราจะมองว่านัก Short คือนักล่าที่ทำกำไรจากธุรกิจใกล้เจ๊ง หรือสร้างกำไรจากความโลภของคนในตลาดหุ้นที่มากเกินไป

เราอาจจะมองได้ว่ากลุ่มเล่น Short Squeeze ก็คือ “นักล่า” ที่มาล่านัก Short อีกทีหนึ่ง

และเมื่อไรที่เหล่านัก Short เพลี่ยงพล้ำ มันจึงกลายเป็นบาดแผลใหญ่ และปรากฏการณ์ที่น่าสนใจอย่างที่ทุกคนได้เห็นกันครับ..

 

 

ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...