Facebook
Twitter
LINE

ธุรกิจชานมไข่มุก 8 เจ้าดังของไทย รายได้ไม่ธรรมดา…

ชานมไข่มุก นับเป็นเครื่องดื่มที่คนไทยรู้จักมานับ 10-15 ปีแล้ว ถ้าใครยังจำได้เคยเป็นเครื่องดื่มที่มีกระแสดังอยู่ในอดีต จากนั้นความนิยมก็ลดลงไป

แต่ล่าสุด กระแสชานมไข่มุกกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา และกลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สร้างรายได้ดี ไม่ว่าจะเป็นร้านดังขึ้นห้าง ไปจนถึงกระทั่งแผงเล็กๆ ในตลาด ก็มีหลายเจ้าได้รับความนิยม

 

การจะแบ่งตลาดชานมไข่มุก น่าจะสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 3 กลุ่มก็คือ..

1. ชานมไข่มุกพรีเมียม เน้นการขายแบรนด์จากต่างประเทศ ราคาอาจจะสูงถึงแก้วละ 80-150 บาท

2. ชานมไข่มุกพรีเมียมแมส ซึ่งแม้จะติดแบรนด์ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ ที่หาซื้อได้ง่ายและราคาถูกกว่า ราคา 35-70 บาท

3. ชานมไข่มุกระดับแมส ส่วนใหญ่คือผู้ประกอบการท้องถิ่น หรือร้านรถเข็นเจ้าเล็กๆ ราคา 15-35 บาท

 

 

สำหรับธุรกิจชานมไข่มุกเจ้าใหญ่ๆ ในไทย สร้างรายได้ดีแค่ไหน เราลองมาสำรวจผลประกอบการของแบรนด์ต่างๆ ที่น่าสนใจกันครับ..

1. KOI The

บริษัท โคอิ เตะ (ประเทศไทย) จำกัด

ปี 2562 รายได้ประมาณ 519.9 ล้านบาท กำไร 107.1 ล้านบาท

 

2. Kamu

บริษัท คามุ คามุ จำกัด

ปี 2562 รายได้ประมาณ 404.9 ล้านบาท กำไร 69.4 ล้านบาท

 

3. Ochaya

บริษัท โอชายะ กรุ๊ป จำกัด

ปี 2562 รายได้ประมาณ 193 ล้านบาท กำไร 1.1 ล้านบาท

 

4. The Alley

บริษัท มิลลาร์รี่ จำกัด

ปี 2562 รายได้ประมาณ 102.6 ล้านบาท กำไร 14.2 ล้านบาท

 

5. Fire Tiger

บริษัท รวยสบายสบาย จำกัด (ซึ่งมีธุรกิจร้าน Nice Two Meat U และ Seoulcial Club อยู่ด้วย)

ปี 2562 รายได้ประมาณ 75.8 ล้านบาท กำไร 3.8 ล้านบาท

 

6. Tiger Sugar

บริษัท ไทเกอร์ ซูการ์ จำกัด

ปี 2562 รายได้ประมาณ 58.4 ล้านบาท กำไร 16.6 ล้านบาท

 

7. Fresh Me

บริษัท เฟรช มี จำกัด

ปี 2562 รายได้ประมาณ 50.1 ล้านบาท กำไร 3.6 ล้านบาท

 

8. Bearhouse

บริษัท 21 ซันแพสชั่น จำกัด

ปี 2562 รายได้ประมาณ 16.8 ล้านบาท กำไร 0.6 ล้านบาท

 

 

ปิดท้าย..

สำหรับมูลค่าตลาด “ชานมไข่มุก” ในไทยนั้น ถูกประเมินว่าสูงถึง 3,000 ล้านบาท นั่นเป็นตัวเลขที่ฟังดูเยอะมากแล้ว แต่ยังเทียบไม่ได้เลยกับมูลค่าตลาดชานมไข่มุกในเอเชีย

เพราะชานมไข่มุกซึ่งถือกำเนิดจากไต้หวันนั้น ปัจจุบันกลายเป็นเครื่องดื่มประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกและอาเซียน โดยมีมูลค่าตลาดถึง 76,000 ล้านบาทด้วยกัน

เรียกได้ว่าเครื่องดื่มชนิดนี้ เป็นแหล่งขุมทรัพย์ใหม่ในช่วงหลายปีหลัง ให้คนที่มองเห็นและมีความสามารถถึง เข้ามาคว้าความร่ำรวยไปได้ไม่น้อยเลย..

 

ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่

Advertisement

แสดงความคิดเห็น...